การตรวจคุณภาพน้ำเชื้ออสุจิหรือ Semen Analysis (SA)
เป็นการตรวจหาความสมบูรณ์และคุณภาพของน้ำเชื้อ ซึ่งเป็นวิธีการพื้นฐานที่สำคัญในการประเมินภาวะเจริญพันธุ์ของฝ่ายชาย เหมาะสำหรับคู่สมรสที่กำลังวางแผนมีบุตร หรือผู้ชายที่สงสัยว่ามีปัญหาภาวะมีบุตรยาก
การตรวจคุณภาพน้ำเชื้ออสุจิ (SA) คืออะไร?
การตรวจ SA เป็นการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำเชื้ออสุจิในห้องปฏิบัติการ โดยการตรวจจะเน้นประเมินปริมาณ คุณภาพ และการทำงานของเชื้ออสุจิ เพื่อหาสาเหตุที่อาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก
ขั้นตอนการตรวจ SA
1.การเก็บตัวอย่างน้ำเชื้อ
2.การวิเคราะห์น้ำเชื้อในห้องปฏิบัติการ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจและวิเคราะห์คุณสมบัติของน้ำเชื้อ เช่น
3.การรายงานผลตรวจ
หลังจากตรวจวิเคราะห์ แพทย์จะแจ้งผลและอธิบายข้อมูลที่ได้เพื่อวางแผนการรักษาเพิ่มเติมหากพบความผิดปกติ
ทำไมการตรวจ SA จึงสำคัญ?
• ช่วยประเมินภาวะเจริญพันธุ์และความพร้อมในการมีบุตรของฝ่ายชาย
• ค้นหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยากที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของเชื้ออสุจิ
• ช่วยวางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยาก เช่น การทำ IUI, IVF หรือ ICSI
• เป็นขั้นตอนพื้นฐานในการตรวจสุขภาพการเจริญพันธุ์ของผู้ชาย
ใครบ้างที่ควรตรวจ SA?
• คู่สมรสที่พยายามมีบุตรนานกว่า 1 ปีแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
• ผู้ชายที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อคุณภาพอสุจิ
• ผู้ชายที่มีประวัติการผ่าตัดหรืออุบัติเหตุบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
• ผู้ที่วางแผนมีบุตรและต้องการประเมินภาวะเจริญพันธุ์
• ผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพระบบสืบพันธุ์เป็นประจำ
การเตรียมตัวก่อนตรวจ SA
• งดการหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 2-5 วันก่อนการตรวจ
• งดแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และบุหรี่ประมาณ 1-2 วันก่อนการตรวจ
• หลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยหรือการใช้ยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อคุณภาพอสุจิ
การตรวจคุณภาพน้ำเชื้ออสุจิ (SA) เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ชายที่ต้องการวางแผนมีบุตรหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยาก การตรวจนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีบุตรที่ประสบความสำเร็จ
หากคุณสนใจบริการตรวจคุณภาพน้ำเชื้ออสุจิ (SA) สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยค่ะ
TESE (Testicular Sperm Extraction) และ PESA (Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration) เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้เก็บตัวอสุจิโดยตรงจากอัณฑะหรือท่อนำอสุจิ สำหรับผู้ชายที่มีภาวะ ไร้อสุจิในน้ำเชื้อ (Azoospermia) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้สามารถนำอสุจิไปใช้ในการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) ได้
TESE คืออะไร?
TESE (Testicular Sperm Extraction) คือ การผ่าตัดเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากอัณฑะโดยตรง เพื่อนำไปค้นหาและแยกอสุจิที่ยังมีชีวิตออกมา แม้ในกรณีที่น้ำเชื้อไม่พบอสุจิเลยก็ตาม
ขั้นตอนการทำ TESE:
TESE เหมาะกับใคร?
PESA คืออะไร?
PESA (Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration) คือ การใช้เข็มขนาดเล็กดูดเอาอสุจิโดยตรงจากท่อนำอสุจิ (Epididymis) โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วและมีการบาดเจ็บน้อยกว่า
ขั้นตอนการทำ PESA:
PESA เหมาะกับใคร?
ข้อดีของ TESE/PESA
การเก็บอสุจิด้วยวิธี TESE หรือ PESA เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีภาวะไร้อสุจิ ซึ่งช่วยให้มีโอกาสมีบุตรได้แม้จะพบปัญหาในการผลิตหรือส่งผ่านอสุจิ วิธีนี้เป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยสามารถนำอสุจิที่ได้ไปใช้ในการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
หากคุณหรือคู่สมรสกำลังประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา
เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
MACS Sperm (Magnetic Activated Cell Sorting) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยคัดกรองและแยกอสุจิที่มีคุณภาพดีและแข็งแรงออกจากอสุจิที่มีความผิดปกติหรือกำลังเสื่อมสภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิที่ประสบความสำเร็จในการทำ เด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI)
MACS Sperm คืออะไร?
MACS Sperm คือ เทคนิคที่ใช้ อนุภาคแม่เหล็ก (Magnetic Beads) ที่จับกับโปรตีนภายในเซลล์อสุจิที่กำลังเข้าสู่กระบวนการตายตามธรรมชาติ (Apoptosis) เพื่อแยกอสุจิเหล่านี้ออกจากอสุจิที่แข็งแรง โดยกระบวนการนี้ช่วยให้ได้อสุจิที่มีคุณภาพดีที่สุดไปใช้ในการปฏิสนธิกับไข่
หลักการทำงานของ MACS Sperm
1. เตรียมตัวอย่างอสุจิ
ตัวอย่างน้ำเชื้อจะถูกนำไปผสมกับอนุภาคแม่เหล็กที่จับกับโปรตีนของเซลล์อสุจิที่กำลังเสื่อมสภาพ
2. คัดแยกอสุจิด้วยสนามแม่เหล็ก
ตัวอย่างอสุจิจะถูกนำผ่านเครื่องคัดแยกที่ใช้สนามแม่เหล็ก อสุจิที่เสื่อมสภาพจะถูกกักไว้ ส่วนอสุจิที่แข็งแรงและสมบูรณ์จะไหลผ่านออกมา
3. เก็บอสุจิคุณภาพดี
อสุจิที่ได้จากกระบวนการนี้จะมีคุณภาพสูงและพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในกระบวนการช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น การทำ ICSI หรือ IVF
ข้อดีของเทคโนโลยี MACS Sperm
ใครควรใช้เทคโนโลยี MACS Sperm?
กระบวนการนำ MACS Sperm ไปใช้
อสุจิที่ผ่านการคัดกรองด้วยเทคโนโลยี MACS Sperm สามารถนำไปใช้ในขั้นตอนต่าง ๆ ของเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น
เทคโนโลยี MACS Sperm เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยการคัดกรองอสุจิที่มีคุณภาพสูงออกมาเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิสนธิ สำหรับผู้ที่สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคัดกรองอสุจิด้วย MACS Sperm สามารถติดต่อทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้
หากคุณสนใจบริการสามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยค่ะ
การแช่แข็งอสุจิหรือ Sperm Freezing เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยเก็บรักษาเซลล์อสุจิไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำมาก เพื่อคงคุณภาพและความสามารถในการปฏิสนธิสำหรับการใช้งานในอนาคต เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการวางแผนมีบุตรในภายหลังหรือในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอสุจิ
การแช่แข็งอสุจิ (Sperm Freezing) คืออะไร?
การแช่แข็งอสุจิเป็นกระบวนการเก็บรักษาตัวอสุจิในอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส ด้วยไนโตรเจนเหลว เพื่อหยุดการเสื่อมสภาพของอสุจิ และช่วยให้สามารถนำไปใช้ในอนาคตเมื่อต้องการมีบุตร ผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น IUI, IVF หรือ ICSI
ขั้นตอนการแช่แข็งอสุจิ
1. การตรวจสุขภาพเบื้องต้น
ผู้เข้ารับบริการจะได้รับคำปรึกษาและตรวจสุขภาพ รวมถึงการตรวจคุณภาพของน้ำเชื้อเบื้องต้น
2. การเก็บตัวอย่างน้ำเชื้อ
3. การประเมินคุณภาพน้ำเชื้อ
4. การแช่แข็งน้ำเชื้อ
น้ำเชื้อจะถูกผสมกับสารปกป้องเซลล์ (Cryoprotectant) เพื่อลดความเสียหายจากการแช่แข็ง ก่อนเก็บรักษาไว้ในถังไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส
5. การจัดเก็บในระยะยาว
อสุจิที่ผ่านการแช่แข็งจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัยในธนาคารเก็บรักษาอสุจิ เพื่อนำมาใช้เมื่อผู้ป่วยต้องการ
ใครบ้างที่เหมาะกับการแช่แข็งอสุจิ?
1.ผู้ชายที่ต้องการวางแผนมีบุตรในอนาคต เช่น ยังไม่พร้อมมีครอบครัวในปัจจุบัน
2.ผู้ชายที่มีปัญหาสุขภาพ
3.ผู้ที่มีความเสี่ยงจากการทำงาน เช่น ทำงานในพื้นที่ที่มีสารพิษหรือรังสี
4.ผู้ชายที่มีปัญหาน้ำเชื้ออ่อน หรือคุณภาพอสุจิลดลง
5.ผู้ที่ต้องการทำหมัน แต่ยังต้องการเก็บอสุจิไว้ใช้ในอนาคต
ข้อดีของการแช่แข็งอสุจิ
การนำอสุจิแช่แข็งไปใช้
เมื่อผู้ป่วยพร้อมที่จะมีบุตร อสุจิที่ผ่านการแช่แข็งจะถูกนำมาละลายและนำไปใช้ในการทำเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น
การแช่แข็งอสุจิ (Sperm Freezing) เป็นทางเลือกที่ช่วยเก็บรักษาความสามารถในการมีบุตรของผู้ชายในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการวางแผนมีครอบครัวในอนาคต หรือเผชิญกับความเสี่ยงจากโรคหรือการรักษาที่อาจกระทบคุณภาพอสุจิ บริการนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถมีบุตรได้ตามความต้องการในอนาคต
หากสนใจบริการแช่แข็งอสุจิ สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้
NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) เป็นการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกตั้งแต่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ขึ้นไป โดยการเก็บตัวอย่างเลือดจากคุณแม่เพื่อตรวจหาความเสี่ยงของความผิดปกติทางพันธุกรรมบางชนิด เช่น ดาวน์ซินโดรม (Trisomy 21) เอดเวิร์ดซินโดรม (Trisomy 18) และความผิดปกติอื่น ๆ ของโครโมโซม
การตรวจนี้มีความปลอดภัยสูงเพราะไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำหรือใช้วิธีการที่เสี่ยงต่อทารกในครรภ์ ทำให้ NIPT เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการความมั่นใจในสุขภาพของลูกน้อย
NIPT คืออะไร?
NIPT เป็นการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ โดยการวิเคราะห์ cfDNA (Cell-Free DNA) ของทารกที่ลอยอยู่ในกระแสเลือดของคุณแม่ ซึ่งเทคนิคนี้สามารถบอกความเสี่ยงของภาวะโครโมโซมผิดปกติได้อย่างแม่นยำกว่า 99% สำหรับบางโรคที่พบได้บ่อย
NIPT ตรวจหาอะไรได้บ้าง?
1. ภาวะดาวน์ซินโดรม (Trisomy 21)
ความผิดปกติที่เกิดจากโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะปัญญาอ่อนและความผิดปกติของการเจริญเติบโต
2.ภาวะเอดเวิร์ดซินโดรม (Trisomy 18)
ความผิดปกติที่เกิดจากโครโมโซมคู่ที่ 18 เกินมา ทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะหลายระบบ และมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารก
3.ภาวะพาทัว ซินโดรม (Trisomy 13)
ความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 13 ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติรุนแรงของสมองและหัวใจ
4. ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ
ตรวจความผิดปกติของโครโมโซมเพศ เช่น
5. ตรวจเพศของทารก (หากผู้ปกครองต้องการทราบ)
ขั้นตอนการตรวจ NIPT
1. การให้คำปรึกษา
คุณหมอจะอธิบายขั้นตอนและประโยชน์ของการตรวจ NIPT
2. การเก็บตัวอย่างเลือด
แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากคุณแม่ประมาณ 10 มิลลิลิตร เพื่อนำไปวิเคราะห์หาความผิดปกติ
3. การวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
ห้องปฏิบัติการจะวิเคราะห์ cfDNA ในกระแสเลือดแม่เพื่อตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซม
4. รับผลตรวจ
ผลการตรวจจะออกภายใน 7-10 วัน และคุณหมอจะอธิบายผลการตรวจให้เข้าใจ
ข้อดีของการตรวจ NIPT
ใครควรตรวจ NIPT?
ข้อจำกัดของ NIPT
การตรวจ NIPT เป็นการคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกที่ปลอดภัย รวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการความมั่นใจในสุขภาพของลูกน้อย หากคุณสนใจเข้ารับบริการตรวจ NIPT หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม
สามารถติดต่อทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้
หากคุณสนใจบริการสามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยค่ะ
บริษัท พระราม 3 เฟอร์ทิลิตี้แอนด์ยีนเซ็นเตอร์ จำกัด
เบอร์โทร : 080-831-7996,080-835-7699